Category: Online & Digital Marketing

ในยุคปัจจุบันที่มีโซเชียลมีเดีย เฟื่องฟูสุดและมีให้เลือกใช้อย่างมากมาย รวมถึงแพลตฟอร์มสำหรับการช้อปปิ้งและการขายสินค้าออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee หลายคนอาจจะคิดว่า เว็บไซต์เป็นสิ่งไม่จำเป็นแล้ว เพราะ Platform ต่างๆ เหล่านี้ก็ลงขายสินค้าและบริการได้ฟรี ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก แต่ก็มีเรื่องของความไม่แน่นอนในระยะยาว ทั้งกฏเกณฑ์ต่างๆในการใช้บริการ หรือถ้าวันใดวันนึงสื่อ Social และ Platform ต่างๆเกิดล้มหายตายจากไป ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งมันจะดีกว่าถ้ามีเว็บไซต์ของตัวเอง เพราะถ้าวันใดก็ตามที่ Social และ Platform ต่างๆ หายไปหรือมีการตั้งกฎเกณฑ์มากมายจนเราไม่สามารถใช้บริการได้ แต่เว็บไซต์ของเราก็ยังอยู่ ธุรกิจไม่สะดุด ความน่าเชื่อถือ การมีเว็บไซต์ของตัวเองก็เหมือนเรามีหน้าร้านหรือหน้าบ้านของตนเอง ให้สังเกตว่าแบรนด์ดังๆ ล้วนแต่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองทั้งนั้น นอกจากนี้การมีเว็บไซต์ก็ทำให้เราสามารถใช้อีเมล์ที่เป็นชื่อแบรนด์ เช่น youremail@website.com แทนที่จะใช้อีเมล์จากผู้ให้บริการเช่น gmail เป็นต้น มีพื้นที่ของตัวเอง การมีเว็บไซต์ของตัวเองเป็นการทลายข้อจำกัดของทำเลที่ตั้งของร้านค้าว่าอยู่ในทำเลที่ไม่ดี ทำให้ขายไม่ดี เปิดร้านค้าได้ 24 ชม. และปราศจากข้อจำกัดในการตกแต่งร้านค้า นอกจากนี้เรื่องของการอัปเดทข้อมูลและแจ้งประกาศ ข่าวสารต่างๆ ก็ทำได้ตลอดเวลา เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องกฎเกณฑ์ของสื่อ Social ต่างๆเช่น Facebook,

หลายคนอาจมองว่า การทำการตลาดออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ปรึกษาการตลาด หรือเอเจนซี่ ซึ่งจริงๆ แล้วจุดประสงค์หลักในการจ้างเอเจนซี่ ส่วนใหญ่นั้นคือการจ้างคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยงาน เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาดูกันว่า ทำไมจึงควรพิจารณาการจ้างเอเจนซี่ทำโฆษณาออนไลน์ 1. ทำได้ครบวงจร ในปัจจุบันเอเจนซี่หลายที่เริ่มวางตัวเป็น One Stop Service นั่นหมายความว่า เพียงแค่จ้างเอเจนซี่ที่เดียว เอเจนซี่ก็พร้อมจะช่วยจัดการทุกอย่างให้หมด อีกทั้งยังสามารถทำได้ครบวงจร ช่วยประหยัดเวลาในการหาสื่อโฆษณาอื่นๆ ลดการประสานงานที่ไม่จำเป็น และหากโฆษณามีปัญหาก็ยังสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญโดยตรงได้อีกด้วย 2. ได้มุมมองแปลกใหม่ การทำการตลาดออนไลน์ ควรได้รับมุมมองหลากหลายมุมมอง ซึ่งเอเจนซี่นั้นมีมุมมองที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ทันกระแสที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีประสบการณ์มาก ทำงานกับหลายองค์กร ได้จับงานจริงในหลายหมวดหมู่ธุรกิจ ย่อมมีมุมมองที่แตกต่าง ทำให้สามารถคิดไอเดียใหม่ ๆ ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น 3. มีข้อมูล สถิติ และฐานข้อมูลเดิม โดยปกติแล้ว สำหรับเอเจนซี่สิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากคือ ข้อมูลลูกค้า ซึ่งเอเจนซี่จะทำการวิเคราะห์ และคัดเลือกกลุ่มข้อมูลที่สามารถนำไปต่อยอดในการทำการตลาดออนไลน์ได้ นอกจากนี้ ทุกสิ้นเดือนจะมีการส่งรายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติงานที่จะลงลึกไปถึงข้อมูลหลังบ้านของเครื่องมือโฆษณา โดยสิ่งนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า โฆษณาไหนมีประสิทธิภาพ โฆษณาไหนควรปิด เป็นต้น 4. รู้ลึก รู้จริง มีความเชี่ยวชาญโดยตรง

การตลาดบนโลกออนไลน์เราทุกคนอาจจะเคยจ่ายค่าโฆษณากันในระดับหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก่อนทำโฆษณา คือโฆษณาจะมีหลายรูปแบบ ซึ่งจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน จึงต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนทุกครั้งก่อนจะเริ่มทำโฆษณา ตั้งแต่การโปรโมทธุรกิจให้คนรู้จัก ไปจนถึงการเชิญชวนให้คนตัดสินใจซื้อ จึงทำให้หลายๆคนต้องหันมาศึกษาเรื่องรูปแบบการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์กัน ซึ่งวันนี้แอดมินได้รวบรวมรูปแบบการโฆษณาบนแพลตฟอร์มชื่อดังที่เชื่อว่าทุกท่านรู้จักกันดี มารวมไว้ที่นี่ไปดูกันเลยค่ะ Google Search Google Search คือการโฆษณาเว็บไซต์บนหน้าแรก Google เป็น Search Engine ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด การลงโฆษณาด้วย Google Search จะทำให้ค้นหาเจอเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น และจะได้ลูกค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะสามารถกำหนดคำค้นหา กำหนดพื้นที่ในการแสดงผล กำหนดช่วงเวลา วางแผนในเรื่องของงบประมาณได้ วัดผลการลงโฆษณาออกมาเป็นสถิติ และยังสามารถปรับเปลี่ยนข้อความโฆษณาได้ การลงโฆษณาวิธีนี้จะเป็นการเพิ่มยอดขายที่เห็นผลชัดเจน แต่ต้องจ่ายเงินเมื่อมีการเกิดคลิกโฆษณาในแต่ละครั้งด้วยเช่นกัน SEO SEO หรือ Search Engine Optimization คือการทำให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่ในอันดับต้นๆบนหน้าแรกของ Google แบบธรรมชาติ ซึ่งส่งผลดีอย่างมากต่อธุรกิจ คือสร้างการมองเห็นให้เว็บไซต์ปรากฏก่อน จึงถือเป็นตัวเลือกที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ มีความน่าเชื่อถือจากอันดับที่ปรากฏ เพิ่มจำนวนลูกค้า ได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย สามารถเพิ่มยอดขายได้ง่ายกว่า และยังมีข้อได้เปรียบอีกอย่างคือเสมือนได้โฆษณาบน Google ตลอด 24 ชม. เพราะหากทำอันดับให้อยู่ในตำแหน่งที่ดี