การทำเว็บให้ติดอันดับหน้าแรก Google นั้น น่าจะเป็นเป้าหมายของคนที่ทำเว็บไซต์ทุกคน ซึ่งการที่จะติดหน้าแรก Google ได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะประกอบด้วยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บที่สวยงาม ใช้งานง่าย, เนื้อหา Content ที่ดี และต้องมีการปรับแต่งให้ถูกหลักเกณฑ์ของ Google โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้เองเรียกว่าการทำ SEO
22 คำศัพท์ที่มือใหม่ SEO ควรรู้

1. SEO
หรือที่ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimization เป็นชื่อเรียกกระบวนการโดยรวมของการปรับแต่งให้เว็บไซต์ให้เข้ากับกฏเกณฑ์ของ Search Engine เช่น Google ทั้งนี้ก็เพื่อให้เว็บไซต์อันดับในการค้นหาที่ดี

2. Keyword
คือคำค้นหาที่พิมพ์เข้าไปที่ Search Engine เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ เช่น ถ้าเราต้องการหาขนาดรูป Twitter ก็พิมพ์คำว่า ขนาดรูป twitter

ถ้าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Keyword ดังกล่าว และมีการทำ SEO ที่ดี เว็บเราก็จะหาเจอเป็นอันดับต้นๆ

3. On-Page SEO
คือปัจจัยภายในเว็บไซต์ที่เราทำได้เอง เช่นการปรับแต่งหน้าเนื้อหาบทความ หรือหน้าเว็บไซต์ ให้สอดคล้องกับกฏเกณฑ์ของ Search Engine เช่น ต้องมี Tag H1, ALt Text รูปภาพ, Meta descritption, ความยาวของเนื้อหา ทั้งนี้ต้องไม่ใช่แค่การปรับแต่งให้เข้ากับกฏเกณฑ์ของ Search Engine เพียงอย่างเดียว แต่ควรทำเนื้อหาให้คนอ่านรู้เรื่องด้วย

4. Off-Page SEO
คือปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ ที่ช่วยให้อันดับในการค้นหาของเว็บเราดีขึ้น ตัวอย่าง เช่น Backlink จากเว็บอื่นๆที่ทำ Inbound Link มาที่เว็บของเรา

5. Snippet
เป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่บนสุดของหน้าค้นหา Google ซี่งตรงนี้คือตำแหน่งที่ 0 โดยในกล่องจะแสดงเนื้อหาโดยย่อจากคำที่ค้นหา


6. Organic
คือ จำนวนคนที่เข้ามาที่เว็บไซต์จากการค้นหาทาง Search Engine เช่น Google โดยลิงค์ต้องไม่ได้มาจากการจ่ายเงินโฆษณาเพื่อติดอันดับ Google ด้วย

7. SERP
เป็นหน้าแสดงผลการค้นหาของ Search Engine ด้วย Google โดย SERP ย่อมาจากคำว่า Search Engine Results Page

Google SERP จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
- Organic SERP Listings– เว็บที่ติดอันดับจากการทำ SEO
- Paid SERP Listing – เว็บที่จ่ายเงินลงโฆษณากับ Google

8. Backlink
คือการที่เว็บไซต์อื่นทำ Link มาที่เว็บของเรา ซึ่งการเรามี Backlink เยอะ นั่นคือสิ่งที่แสดงให้ Google เห็นว่าเว็บเรามีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับ

9. Inbound Link
ลิงค์เข้า คือลิงค์ที่เราได้รับมาจากเว็บอื่นที่ทำลิงก์มาที่เว็บของเรา

10. Outbound link
ลิงค์ออก คือการใส่ Link ที่เว็บของเรา เพื่อออกไปเว็บคนอื่น ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อยๆคือ การใช้อ้างอิงเนื้อหาต่างๆ ที่เรานำมาใช้

11. Dofollow Link
คือการไม่ใส่แท็ก rel=”nofollow” ใน HTML Link เพื่อให้ Bot ของ Search Engine ตามไปเก็บข้อมูลหน้าเว็บปลายทาง, ส่งต่อคะแนนทาง SEO
// <a href="https://yourweb.com/">รับทำ SEO</a> // แบบนี้คือลิ้งก์ DoFollow

12. Nofollow Link
เป็นการใส่แท็ก rel=”nofollow” ใน HTML Link เพื่อใช้บอกให้ Bot ของ Search Engine ไม่ต้องตามไปเก็บข้อมูลในหน้าเว็บปลายทาง และ ไม่ต้องส่งต่อคะแนนทาง SEO ไปยังหน้าเว็บปลายทาง
// < a href="https://yourweb.com" rel="nofollow">รับทำเว็บไซต์</a > // แบบนี้คือลิ้งก์ NoFollow

13. Seed Keyword
คำค้นหาที่เป็นคำกว้างๆไม่เฉพาะเจาะจง เช่น เสื้อเชิ้ตผู้ชาย, รองเท้าส้นสูง เป็นต้น

14. Niche Keyword
คำค้นหาที่มีการขยายความให้ชัดเจนขึ้นมาจาก Seed Keyword เช่น เสื้อเชิ้ตผู้ชายแขนยาว, รองเท้าส้นสูง O&B

15. Longtail Keyword
คำค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า Niche keyword เช่น เสื้อเชิ้ตผู้ชายแขนยาว Arrow, รองเท้าส้นสูง O&B รุ่น Diana Heels

16. Slug
คือ ส่วนหนึ่งของ URL ที่อยู่ตามหลังชื่อเว็บไซต์ โดย Slug นั้น แม้ว่าจะไม่มีผลต่อ SEO แต่ก็ควรตั้งเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เพื่อที่ว่าเวลา Copy Link ไปวางที่อื่นๆ เช่น Facebook จะได้ไม่เป็นภาษาต่างดาว



17. Anchor text
คือคำหรือข้อความที่เอามาทำเป็น Link เมื่อคลิกแล้วจะไปยังเว็บไซต์ที่ระบุไว้
ตัวอย่าง
<a href=”https://www.fastclick.co.th”>ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่</a>

https://www.fastclick.co.th = URL เว็บปลายทาง
ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่ = Anchor Text ที่แสดง

18. Engagement
หรือที่เรียกสั้นๆว่า Engage เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่ติดตามแบรนด์ของคุณในช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์, สื่อ Social ต่างๆ ที่เรียกว่าการมีส่วนร่วม โดยการมีส่วนร่วมจะเกิดจากการ Like, Comment, Share บน Social Media

19. Sitemap
แผนผังเว็บไซต์ เป็นหน้าที่รวม Link ทั้งหมดของเว็บไซต์ Sitemap มีไว้เพื่อนำทางให้ Bot ของ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว

20. Meta Descritption
เป็นข้อความเกริ่นนำหรือใช้อธิบายเนื้อหาของหน้าเว็บหรือหน้า Content นั้นๆแบบย่อ โดยเมื่อค้นหาด้วย Google ข้อความ Meta Descritption จะอยู่ใต้ Title Tag


21. Title Tag
คือชื่อเรื่องของหน้าบทความหรือหน้าเว็บนั้นๆ โดย Title Tag ควรเขียนให้กระชับ ไม่สั้นหรือยาวเกินไป ไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร


22. Alt Tag (Alt Text)
Alt Tag หรือ Alt Text (Alternative Text) คือคำที่ใช้อธิบายให้ Google เข้าใจว่ารูปภาพนั้นๆ เป็นภาพอะไรและมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บอย่างไร โดย Alt Tag จะไม่โชว์ที่หน้าเว็บ แต่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำ SEO
นอกจากนี้ยังมีคำอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
Bounce Rate
คำศัพท์นี้เป็นคำที่ใช้ใน Universal Analytics 3 ซึ่งจะมีการใช้อีกไม่นาน เพราะ Google ประกาศแล้วว่าจะ Universal Analytics (UA) จะใช้ได้ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2023 สำหรับผู้ที่ยังใช้ UA อยู่ ก็ควรจะเปลี่ยนไปใช้ Google Analytics 4 โดยเร็วที่สุด ซึ่ง Google Analytics 4 จะไม่มีการใช้ Bounce Rate แล้ว
Bounce Rate คือการนับจำนวนผู้ที่เข้ามาเว็บไซต์ของเราแล้วไม่มีการคลิกไปยังหน้าอื่นๆและปิดเว็บไปเลย ยิ่งมี Bounce Rate มากก็แสดงว่าเว็บไซต์เรามีเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ
มาเริ่มทำ SEO กันเถอะ
คำศัพท์ที่อธิบายไปทั้งหมดเป็นเพียงคำศัพท์พื้นฐานที่มือใหม่หัดทำ SEO จำเป็นต้องรู้ และน่าจะทำให้เข้าใจเรื่องการทำ SEO มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเริ่มศึกษาการทำ SEO ต่อไป