การดูวีดีโอ Youtube เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายสำหรับทุกเพศทุกวัย เพราะสามารถเลือกดูในสิ่งที่สนใจได้ตามความต้องการ
ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีการใช้งาน Youtube อย่างเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ยังมีโฆษณาบน Youtube หลากหลายรูปแบบทั้งกดข้ามได้ และกดข้ามไม่ได้ ไปแสดงตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อให้สามารถจดจำแบรนด์ธุรกิจต่างๆได้ และหากอยากลงโฆษณาแบรนด์ของเราบ้าง ควรจะเลือกแบบไหนดี?
วันนี้จะพาไปดูประเภทของโฆษณาบน Youtube ว่ามีอะไรบ้าง และจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์และจุดประสงค์ของเรา
1. Mastheads
มีลักษณะเป็นแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่ส่วนหัวของ Homepage มีขนาด standard 970×250 pixel หรือจะเป็น Expandable size 970×500 pixel จึงเหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการจะโปรโมทสินค้าใหม่ๆ ที่ต้องการการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
2. Display ads (Banners)
จะมีลักษณะคล้ายๆ กับแบบ Mastheads จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการจะโปรโมทสินค้าของเราให้เป็นที่โดดเด่นและเห็นชัดในสายตาของลูกค้า
3. Overlay-in-Video ads
เป็นโฆษณาแบนเนอร์ที่ซ่อนอยู่บนตัววีดีโอ จะเหมาะกับธุรกิจทั่วๆ ไป ที่อยากให้ผู้ชมได้เห็นสินค้าผ่านตา หากสนใจสามารถกดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
4. Trueview in-streams ads
ส่วนใหญ่จะเป็นวีดีโอในการถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ ดังนั้นหากต้องการขายโฆษณาให้เป็นไปในทางน่าสนใจหรือโน้มน้าวใจลูกค้าด้วยวีดีโอ โฆษณารูปแบบนี้จึงมีความน่าสนใจ โดยการคิดค่าโฆษณาจะขึ้นอยู่กับการดูคลิป ซึ่งจะคิดเงินก็ต่อเมื่อดูเกิน 30 วินาที หรือจนกว่าวีดีโอจะจบโดยไม่มีการกดข้าม
5. Trueview in-display ads
ค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการคลิกเข้าชมวิดีโอ ดังนั้นต้องนำเสนอรูปแบบโฆษณาให้ดูน่าสนใจที่สุดเพื่อล่อตาล่อใจให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกอยากจะเข้ามาดูต่อ
6. Trueview in-search ads
จะคล้ายกับการซื้อ Google search การคิดค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้น เมื่อมีการคลิกที่ลิ้งก์เพื่อเข้าไปดูโฆษณา
7. Non-Skippable in-stream ads
วีดีโอโฆษณาในคลิปหลักเหมือน Trueview in-stream ads แต่จะเป็นการบังคับให้ผู้ชมต้องดูโฆษณาวีดีโอจนจบ ก่อนที่จะเข้าถึงวิดีโอหลักได้ และต้องมีความยาวไม่เกิน 20 วินาที และจะคิดค่าโฆษณาการเห็นต่อ 1,000 ครั้ง
8. Bumper ads
โฆษณาในรูปแบบที่บังคับให้คนดูให้จบภายในเวลาเพียง 6 วินาที เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเน้นการเข้าถึง (Reach) และความถี่ที่จะเข้าถึงผู้ใช้ (Frequency)
