Customize เป็นระบบการปรับแต่งค่าพื้นฐานของ WordPress โดยหน้าจอการทำงานจะเป็นแบบ Live Edit คือจะแสดงผลทันทีที่มีการแก้ไขค่าใดๆ ส่วนเมนูใน Customize นั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับธีมที่ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งการที่จะเข้าไปหน้า Customize สามารถเข้าได้ 2 ทางคือ
1. ที่หลังบ้าน WordPress ให้คลิกที่ Appearance -> Customize

2. จากหน้า Themes ให้คลิกที่ Customize จาก Theme ที่ Active อยู่

โดยจำนวนเมนูในหน้า Customize จะขึ้นอยู่กับ Theme ที่ใช้ สำหรับ Theme เริ่มต้นที่มาพร้อมกับ WordPress ก็คือ Twenty Twenty-One แต่โดยพื้นฐานแล้วเมนูที่จะต้องมีทุกธีมมีดังนี้
- Site Identity
- Menus
- Widgets
- Homepage Setting
- Additional CSS

Site Identity เมนูนี้สำหรับจัดการเกี่ยวกับ Logo, Site Title, Tagline และ Site Icon
- ใส่ Logo ของเว็บ รวมถึงยังสามารถใส่และแก้ไข Site Title และ Tagline ได้
- Site Icon หรืออีกชื่อคือ Favicon คือสัญลักษณ์แทนเว็บไซต์ จะเป็นรูปภาพขนาดเล็กที่ปรากฏอยู่บน แท็บของเบราเซอร์ โดย Favicon นั้นมาจากคำสองคำ คือ faverite และ icon = favicon มีขนาด 16×16 Pixel ประโยชน์ของ Favicon ก็คือจะทำให้จดจำเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เพราะเป็นรูปภาพที่เป็นสัญลักษณ์ ทำให้จดจำได้ง่ายกว่าเป็นข้อความ

Colors & Dark Mode เป็นเมนูที่มีเฉพาะเป็น Theme Twenty Twenty-One เท่านั้น มีไว้เพื่อใช้ปรับสีพื้นหลังของเว็บ

และยังเปิด Dark Mode ได้ โดยเมื่อเปิด Dark Mode หน้าเว็บจะมีปุ่ม Dark Mode: Off/On ให้ผู้ใช้สามารถกดเปิด/ปิดได้เอง

Background Image สำหรับเอาไว้ใส่ภาพพื้นหลังของเว็บ โดยจะมีผลกับทุกหน้าของเว็บ

การใส่ภาพให้คลิกที่ Select image แล้วเลือกภาพที่มีอยู่ในเว็บหรือว่าอัพโหลดขึ้นไปใหม่ก็ได้

Preset คือ เลือกรูปแบบของภาพพื้นหลังที่จะให้แสดงผล
Image Positon จัดตำแหน่งของภาพว่าจะให้ชิดซ้าย ขวา หรือตรงกลาง
Image Size เลือกขนาดของภาพที่จะให้แสดงผล
Repeat Background Image ติ๊กถูกคือให้แสดงภาพซ้ำๆต่อกันไม่รู้จบ
Scroll with Page ถ้าติ๊กถูกภาพพื้นหลังจะเลื่อนตามหน้าเว็บเมื่อมีการเลื่อน Scroll Mouse ถ้าเอาติ๊กถูกออก ภาพพื้นหลังจะไม่เลื่อนตาม Scroll Mouse
Menus สำหรับใช้แสดงว่าตำแหน่งเมนูปัจจุบันใช้อะไรอยู่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ Menus ใน Appearance ที่ได้สร้างไว้

ที่ Menus เมื่อคลิกที่ Main Menu ซึ่งก็คือชื่อเมนูที่เราได้สร้างไว้ (ตรงนี้เราใช้เป็น Primary menu) ก็จะสามารถแก้ไข Main Menu ได้เลย

ที่ Menu Locations ถ้าคลิกที่ View All Locations จะแสดงตำแหน่งเมนูทั้งหมดที่เราสามารถเลือกว่าจะใช้เมนูใด โดยจะตำแหน่งเมนูจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับธีมที่ใช้ ซึ่งในตัวอย่างเป็นธีม Twenty Twenty-One จะตั้งเมนูได้สองตำแหน่งคือ Primary menu กับ Secondary menu
สามารถเข้าไปดูวิธีการการสร้างและจัดการเมนู WordPress ได้ที่นี่ Click Here
Widgets ส่วนนี้จะแตกต่างออกไปแล้วแต่ธีม ซึ่งโดยมากจะเป็น Footer ซึ่งธีม Twenty Twenty-One นี้ Widgets นี้จะเป็นตำแหน่งที่อยู่ล่างสุดถัดขึ้นมาจาก Footer ของเว็บ



สำหรับธีม Twenty Twenty-One นั้น Footer ที่เริ่มต้นมาให้ จะไม่สามารถแก้ไขได้ที่ Customize ถ้าต้องการสร้าง Footer เอง ก่อนอื่นเราจะต้องไปแก้ที่ Appearance -> Theme Editor และเลือกไฟล์ footer.php และลบโค้ดที่ไฮไลท์ด้านล่างนี้ออก

จากนั้นเราสามารถสร้าง Footer ได้เอง โดยใช้ Page Builder เช่น Elementor
Homepage Settings สำหรับไว้ตั้งค่าหน้าแรกและหน้าบทความ ซึ่งการตั้งค่าตรงนี้จะเป็นส่วนเดียวกับ Settings -> Reading -> Your homepade displays
- Homepage : ใช้เลือกหน้า Page ที่จะใช้เป็นหน้าหลักเมื่อเข้ามาเว็บไซต์
- Posts page : ใช้เลือกหน้า Page ที่จะเป็นหน้ารวมของบทความ

Excerpt Settings – สำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้า Archive Pages

Additional CSS – เอาไว้ใส่ Code CSS เวลาต้องการแก้ไขดีไซน์บางอย่างของเว็บที่ไม่สามารถทำที่หลังบ้านได้

สรุป Customize เป็นการปรับแต่งค่าพื้นฐานต่างๆของ WordPress ที่มีความเกี่ยวข้องกับธีมที่ใช้ และด้วยระบบการทำงานแบบ Live Edit ก็ทำให้การแก้ไขปรับแต่งนั้นทำได้ง่ายมาก เพราะเมื่อเราแก้ไขอะไรไปก็ตามก็เห็นผลทันที ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อดีคือถ้าสิ่งที่เราแก้ไขไม่เป็นไปตามเราต้องการ ก็แคไม่ต้องกด Publish การแก้ไขนั้นก็จะไม่มีผล