หลังจากที่ทำความรู้จักกับ WooCommerce กันไปแล้ว ในบทความก่อนหน้านี้ ถ้าใครยังไม่ได้ดูก็สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่นี่ –> เริ่มต้นทำความรู้จักกับ WooCommerce ในบทความนี้จะขอแนะนำการติดตั้ง WooCommerce โดยที่การติดตั้งก็จะเหมือนกันการติดตั้ง Plugin ทั่วๆไป
ที่หน้า Admin ให้คลิกที่เมนู Plugins -> Add New
ใส่คำค้นหาที่ช่อง Keyword ด้วยคำว่า Woocommerce จากนั้นคลิกที่ Install Now เพื่อทำการติดตั้ง
หรือจะ Download โดยตรงจากเว็บก็สามารถทำได้ โดยเข้าไปที่ Download ได้ที่นี่ – > WooCommerce
จากนั้นคลิกที่ Activate เพื่อเป็นการเปิดใช้งาน Plugin
หลังจาก Activate เมื่อเข้าสู่หน้า WooCommerce ครั้งแรก จะมาที่หน้า Welcome to WooCommerce ซึ่งจะเป็นส่วนของ Setup Wizard จะเป็นการตั้งค่าของร้านค้า
กรอกที่อยู่ร้านค้าให้ครบถ้วนแล้วคลิกที่ Continue
เมื่อคลิก Continue แล้ว จะมี popup ขึ้นมา ให้เราเลือกว่าจะแบ่งปันข้อมูลให้ผู้พัฒนา เพื่อเป็นการช่วยเหลือในการปรับปรุงและพัฒนาระบบของ WooCommerce หรือไม่ ตรงนี้แล้วแต่เรา จะเลือก Yes หรือ No ก็ได้
หน้าต่อมา จะให้เราเลือกว่าสินค้าที่ขายอยู่ในหมวดหมู่ใด ถ้าไม่มีข้อไหนตรง ก็ให้เหลือ Other แล้วใส่ชื่อที่ต้องการ แล้วคลิกที่ Continue
ต่อมาจะเป็นการเลือก Product Type ประเภทของสินค้าที่จะขาย ตรงนี้เลือก Physical products กับ Downloads ก็พอ แล้วคลิกที่ Continue
ต่อมาจะเป็นการสอบถามเกี่ยวกับธุรกิจของเรา จะมีสองแท็บคือ Business details กับ Free features
แท็บ Free features จะเป็นการแนะนำ Plugin เสริม ตรงนี้เราสามารถติ๊กถูกออกได้ ยังไม่จำเป็นต้องลงทันที
ต่อมาจะเป็นการเลือกติดตั้งธีมสำหรับ WooCommerce ซึ่งค่ามาตรฐานจะเป็นธีมที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ตรงนี้ถ้ามือใหม่ยังไม่รู้ว่จะใช้ธีมอะไร แนะนำให้เลือก Store Front เพราะเป็นธีมของบริษัท Automattic ผู้ผลิต WooCommerce ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งาน WooCommerce
เมื่อเลือกธีมเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับมาที่หลังบ้าน WordPress จะมาที่หน้า Home ของ WooCommerce
ที่หน้า Home ของ WooCommerce เบื้องต้นส่วนที่จำเป็นต้อง Setting จะมีอยู่ 3 อย่างดังนี้
1. Setup payments ทางเลือกการชำระค่าสินค้า จะมีให้เลือก 3 แบบ
- PayPal Payments – จ่ายเครดิตการ์ดผ่านทาง PayPal
- Cash on delivery – เก็บเงินปลายทาง
- Direct bank transfer – จ่ายผ่านธนาคาร
การตั้งค่าส่วนนี้ค่อนข้างละเอียด จะขอทำบทความอธิบายการ Setting ระบบ Payments ในภายหลัง
2. Setup shipping ตั้งค่าการจัดส่ง
ให้ใส่ค่า Shipping Cost ลงไปก่อน เท่าไหร่ก็ได้อาจจะสัก 30 หรือ 50 บาท เพราะตรงนี้เราสามารถเข้าไปแก้ไขในภายหลังได้ จากนั้นคลิกที่ Complete task
3. การปรับเปลี่ยนสกุลเงิน
เป็นส่วนสำคัญอีก 1 อย่างที่้ต้องเข้ามาปรับเปลี่ยน ก็คือสกุลเงินที่จะใช้สำหรับร้านค้า
เข้าไปที่ WooCommerce -> Settings ที่แถบ General
ที่ Currency options เปลี่ยน Currency เป็น Thai baht จากนั้นคลิกที่ Save changes
นอกจากนี้ที่ Tab General ยังสามารถแก้ไขที่อยู่ของร้านค้าได้ที่ Store Address
โดยปกติแล้วเมื่อมีการลง Plugin WooCommerce ตัว Plugin จะทำการสร้าง Page ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ 4 หน้า คือ Cart, Checkout, My account และ Shop
แต่ถ้าเกิดข้อผิดพลาดไม่ว่าจากอะไรก็ตาม หน้าดังกล่าวไม่ได้ถูกสร้างขึ้น สามารถแก้ไขโดยเข้าไปที่ WooCommerce -> Status ที่แท็บ Tools
ที่ Create default WooCommerce pages คลิกที่ Create pages ตรงนี้จะเป็นคำสั่งสำหรับสร้างหน้า Default Pages ของ WooCommerce ขึ้นมาใหม่
โดยปกติแล้วถ้าใช้ WooCommerce Theme เมื่อมีการติดตั้ง Plugin WooCommerce ส่วนของ Cart (ตะกร้าสินค้า) จะถูกเพิ่มเข้ามาที่ Header โดยอัตโนมัติเช่นในตัวอย่างใช้ Storefront Theme
